สูตรบาคาร่า จากคาสิโนเว็บตรง เส้นทางสู่การเป็นเศรษฐี วันนี้ Utah168 มีเคล็ดแต่ไม่ลับมาฝากทุกๆท่าน ด้วยความที่เกมบาคาร่ากำลังเป็นที่นิยม ในหมู่บรรดานักเดิมพัน จะมั่วมาเล่นแบบธรรดามาก็ไม่ได้แล้วใช่ป่ะ ถ้ามั่วแต่เล่นเดาแบบมั่วๆ แล้วเมื่อไหร่จะถึงคิวเราที่กลายเป็นเศรษฐีกัน มาค่ะ ตามเราเข้ามาอ่านบทความนี้ ใครอยากเป็นเศรษฐี ? “ฉันนะสิๆ” เอาล่ะก่อนอื่นเรยเราจะบอกว่าเส้นทางสู่การเป็นเศรษฐี ก็ไม่ได้ยากอย่างที่ใครหลายๆคิด เพีย
งแค่คุณเข้ามาเดิมพันกับทางเว็บของเรา รับประกันได้เรยว่า คุณได้เปนเศรษฐีอย่างแน่นอน ก่อนอื่นคุณจะต้องทำความรู้จักกับบาคาร่าออนไลน์ก่อน ว่าบาคาร่าออนไลน์คืออะไร มีวิธีการเล่นแบบไหน เขานับแต้มบาคาร่ากันอย่างไร และที่สำคัญที่สุดเรยก็คือ สูตรการเล่นบาคาร่าต้องทำอย่างไรบ้าง มาค่ะ เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจทั้งหมดนี้เอง
บาคาร่า คืออะไร
บาคาร่าออนไลน์เป็นการเล่นเกมบาคาร่าผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องออกไปยังคาสิโนที่จะเล่น เกมนี้เป็นการเล่นที่มีที่มามาจากเกมการพนันที่มีชื่อเสียงในสังคมชั้นสูง เกมบาคาร่ามักมีความเรียบง่ายและเสมือนจริง เป็นเกมที่ใช้ไพ่ในการแข่งขันระหว่างผู้เล่นกับเจ้ามือ มีเจ้ามือและผู้เล่นที่เล่นกัน ในการเล่น ผู้เล่นจะเดาว่ามือไหนจะชนะ มือของเจ้ามือหรือมือของผู้เล่น หรือเสมอกัน (เสมอ) ซึ่งมีค่าตัวของไพ่และกติกาการเล่นที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
การเล่นบาคาร่าออนไลน์มักมีรูปแบบที่หลากหลาย เช่น บาคาร่าสดที่มีผู้เล่นและเจ้ามือจริง หรือบาคาร่าแบบออโต้ที่ผู้เล่นเล่นกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ผู้เล่นสามารถเลือกที่จะเล่นในแบบที่ตรงกับความสะดวกของตนเองได้ การเล่นบาคาร่าออนไลน์ยังมีความสะดวกสบายมากขึ้นด้วยการเล่นได้ทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ตและที่เหมาะสมตามเวลาของผู้เล่น
วิธีการเล่นสูตรบาคาร่า
ผู้เล่นมือใหม่ ถ้าได้เข้าใจ กติการการเล่นเกม บาคาร่า จะตัดสินผลจากการนับแต้ม ดังนั้นเรามาเริ่มต้นทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการเล่นแบบง่าย
1.เริ่มจากการฝากเงินเข้าระบบเพื่อเริ่มต้นการเดิมพัน
2.เข้าห้องบาคาร่าและเลือกค่ายเกมที่ตัวเองชอบ
3.เข้าสู่การเดิมพัน จะมีดีลเลอร์สาวสวยคอยให้บริการตลอดการเดิมพัน หรือว่าจะเปลี่ยนดีลเลอร์ก็ได้ตามใจชอบ
4.จากนั้นดีลเลอร์สาวสวยเริ่มทำการสับไพ่และแจกให้ทั้ง 2 ฝั่ง
5.ทั้งผู้เล่นและเจ้ามือจะทำการเปิดไพ่ หากมีการจั่วไพ่ดีลเลอร์จะแจกไพ่เพิ่มตามความเหมาะสม
6.เปิดไพ่เพื่อทายผล ก่อนการเปิดไพ่ระบบจะให้นักพนันได้ทำการทายผล หรือเลือกฝั่ง เจ้ามือ และ ผู้เล่น
7.ผลออกมาบอกได้เลยว่าฝั่งไหน ชนะแต้มบนหน้าไพ่ นักพนันจะทำเงินได้หรือเสียขึ้นอยู่กับฝั่งที่เลือก
การนับแต้ม แบบฉบับ สูตรบาคาร่า
มาเรียนรู้วิธีการนับไพ่ไปพร้อมๆกับ บาคาร่าออนไลน์ โดยใช้การนับแต้มนั้นจะมีความคล้ายกันกับการนับแต้มไพ่ป๊อกเด้งค่าไพ่ ไพ่ A (ไพ่เอ) มีค่าเท่ากับ 1 แต้มเท่านั้น ไพ่แจ็ค (J),ไพ่แหม่ม(Q),และไพ่คิง(K),ไพ่10 มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม ส่วนของไพ่ที่เหลือเป็นตัวเลขก็ตามที่ตัวเลขแสดงหน้าไพ่ได้เลย ยกตัวอย่างเช่น
ฝั่งผุ้เล่น Player ถือไพ่ K และ ไพ่เลข 6 ถือว่าผู้เล่นได้ 6 แต้ม
ฝั่งเจ้ามือ Banker ถือไพ่ตัวเลข 7 และตัวเลข 10 เท่ากับว่าฝั่งเจ้ามือ ได้ 7 แต้ม
อัตราการจ่ายเกมบาคาร่า
อัตราการจ่ายเงินในเกมบาคาร่ามักจะแตกต่างกันไปตามแพลตฟอร์มและกฎกติกาที่ใช้ เวลาที่คุณเข้าร่วมเล่นบาคาร่าออนไลน์ในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่แตกต่างกัน คุณควรตรวจสอบตารางการชำระเงินที่เหมาะสมกับเกมที่คุณเลือกเล่น อย่างไรก็ตาม อัตราการจ่ายเงินมักจะมีลักษณะเป็นไปตามนี้:
- ผู้เล่นชนะ (Player): การชำระเงินสำหรับการเดิมพันที่ผู้เล่นชนะมักจะเป็นเงิน 1 เท่า หรือบางทีมีการชำระเงินเป็นเงิน 1 เท่าตัวบวกคืนเงินเดิมพัน
- แบงก์เกอร์ชนะ (Banker): อัตราการจ่ายเงินสำหรับการเดิมพันที่แบงก์เกอร์ชนะมักจะเป็นเงินน้อยกว่า 1 เช่น 0.95 เท่า แต่บางทีก็อาจมีค่าอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่ใช้
- เสมอ (Tie): การชำระเงินสำหรับการเดิมพันที่เกมจบเสมอมักจะมีอัตราการจ่ายที่สูงขึ้น เช่น 8 เท่า
นี้คือเทคนิคการอ่านไพ่ของเหล่าเซียน “สูตรบาคาร่า” เส้นทางสู่การเศรษฐี
สูตรในการอ่านเค้า ไพ่บาคาร่าออนไลน์ สามารถแบ่งออกได้ 9 ลักษณะด้วยกัน คือ การแทนตัวอักษร P จะแทนคำว่า ผู้เล่น หรือ เพล์เยอร์ และอักษร B จะแทนคำว่า เจ้ามือ หรือ แบงค์เกอร์ ซึ่งเราจะแนะนำดูกันทีละ ลักษณะ ดังต่อไปนี้
- การอ่านเค้าไพ่แบบ ปิงปอง คือ การอ่านเค้าไพ่ในลัษณะ แทบสลับ ที่จะออกผลไพ่ สลับกันระหว่างเจ้ามือและผู้เล่น เช่น PBPB 2 ครั้งขึ้นไป ซึ่งผู้เล่นจะสามารถดาดเดาได้ว่ารอบต่อไป ไพ่จะออกผลที่ฝั่งไหน ช่วยให้เรามีโอกาสชนะได้มากขึ้น เป็นต้น
- การอ่านเค้าไพ่แบบ 2 ตัวตัด คือ จะออกไพ่ 2 ตัวตัดบ่อย จุดสังเกต ก็ คือ หากฝ่ายไหนชนะ 2 ครั้ง ติดกันแล้ว ฝั่งตรงข้ามจะชนะในรอบถัดไป ผู้เล่นสามารถรอแทงสวนได้เลย เค้าไพ่ออกมาในลักษณะ เช่น PP B PP นั่นเอง
- การอ่านเค้าไพ่แบบ 3 ตัวตัด คือ จะคล้ายกันกับการอ่านเค้าไพ่ 2 ตัวตัด ต่างกันตรงที่จะมีฝ่ายหนึ่งที่ชนะ 3 รอบติด และครั้งถัดไป ให้ผู้เล่นรอแทงสวน เช่น B PPP และเป็น B เป็นต้น
- การอ่านเค้าไพ่มังกร คือ เป็นเค้าไพ่ที่ยาว แต่เป็นเค้าไพ่ที่อ่านง่ายที่สุด เพราะจะมีหนึ่งฝ่ายที่จะชนะติดกัน 4-5 ครั้ง มากสุดก็ 10- 15 กันเลย ผู้เล่นสามารถแทงตามไปได้เรื่อยๆ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนหน้าไพ่ เช่น B B B B ถ้าไพ่ออกลักษณะนี้ รอบถัดไปให้แทง B อีกครั้ง ได้เลย
- การอ่านเค้าไพ่ตัวติด คือ เค้าไพ่ลักษณะนี้จะมีความคล้ายกับเค้าไพ่มังกร จะต่างกันตรงที่จะออกผลชนะทั้งสองฝ่ายเท่าๆกัน ในส่วนของการลงเดิมพันให้ผู้เล่นรอผลให้ออก 2 ครั้ง แล้วถึงแทงตาม 1 ครั้ง เช่น BBBB PP ในรอบถัดไปให้แทง P ตามอีก ได้เลย
- เค้าไพ่เจ้ามือ หรือ แดงเยอะ คือ เค้าไพ่ที่ทั้งเกมนั้นออกไปทางแดงทุกๆครั้ง เมื่อเห็นแววลักษณะนี้ใน 10 ไม้แรก ว่าแดงมากกว่า 80 % จึงสามารถวางเงินเดิมพันแดงบ่อยๆ กับโต๊ะได้ทันทีเพราะมีโอกาศการทำกำไรได้สูง เป็นต้น
- เค้าไพ่ผู้เล่น หรือ น้ำเงินเยอะ คือ ลักษณะเค้าไพ่ ลักษณะ นี้หายยากมีมาไม่มากแต่ถ้ามี ผู้เล่นจะมองออกตั้งแต่แรกๆนั้น จะสามารถทำกำไรได้อย่างสูงสุด หรือสามารถทบเงินจำนวนมากๆ ได้โดยไม่โดนตัดเปอร์เซนต์ เหมือนฝั่งเจ้ามือ เป็นต้น
- การอ่านเค้าไพ่ลูกคู่ คือ เค้าไพ่นี้มีความคล้ายเค้าไพ่ปิงปอง แต่จะเป็นการออกไพ่เบิ้ล 2 รอบติดกัน แล้วจะเปลี่ยนให้อีกฝ่ายชนะเบิ้ล 2 รอบเหมือนกัน สลับกันไปมาแบบนี้ ผู้เล่นสามารถอ่านเค้าไพ่ แล้วรอจังหวะแทงสวนได้เลยตามสูตร ได้เลย
- การอ่านเค้าไพ่ตัวหลุด คือ เป็นการอ่านเค้าไพ่ที่มีจุดสังเกตค่อนข้างยาก แต่จะมีจุดสังเกต เช่น เมื่อหน้าไพ่ออก P เพียงครั้งเดียวแล้วหน้าไพ่เปลี่ยนเป็น BB P BBB P ถ้าเค้าไพ่ออกในลักษณะนี้ รอบต่อไปให้ผู้เล่นแทงฝั่งตรงข้ามได้เลย นั้นคือแทง B เป็นต้น
จากสูตรการอ่านเค้าไพ่ใน ลักษณะ ต่างๆ เป็นเพียงแนวทางในเบื้องต้น ที่ผู้เล่นสามารถเลือกนำไปทดลองใช้ได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และความชำนาญของแต่ละคนด้วย ถึงจะสามารถสร้างรายได้ หรือ ทำกำไรจากการเป็นนักพนันมืออาชีพได้ และสิ่งที่ควรยึดเป็นกฎเหล็กทุกๆครั้งในการเล่นพนันทุกรูปแบบ คือ สติ และความรู้จักพอ เป็นต้น